Work & Travel
USA
What’s Work & Travel
โครงการ Work and Travel USA เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม (Cultural Exchange) ที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ระดับอุดมศึกษา ทุกชั้นปี ได้มีโอกาสได้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงปิดภาคเรียน เพื่อทำงานกับบริษัทชั้นนำ และท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ และเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอเมริกัน โดยนิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ Work and Travel USA กับ Nextgen จะได้รับวีซ่าประเภท J-1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับเยาวชนในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ให้สิทธิ์เยาวชนในการทำงานและท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายภายใต้เงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดคือไม่เกิน 4 เดือน และนักศึกษาสามารถอยู่พำนักในประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อท่องเที่ยวได้อีกสูงสุด 28 วันหลังสิ้นสุดการทำงาน
วัตถุประสงค์โครงการ
คุณสมบัติผู้สมัคร
ระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ
ระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการสูงสุดคือ 4 เดือน โดยสามารถเข้าร่วมได้ตามกำหนด เปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
ดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Type of Jobs
Amusement Park and Water Park
Game Host
Merchandise
Ride Operators
Admission Hosts
Life Guard
etc.
Fast Food Service
Cashier
Food Preparation
Server
Cleaner
etc.
Restaurant
Busser
Dishwasherd
Food Runner
Host / Hostess
Kitchen Staff
Server
Hotel
Font Desk
Server
Housekeeper
Gardener
และยังมีประเภทงานอื่นๆอีกมากมาย โดยผู้สมัครเข้าร่วมโครงการสามารถเลือกสมัครงานในสถานที่ที่ผู้สมัครมีความสนใจ แต่การตอบรับของผู้ว่าจ้างจะอิงตามคุณสมบัติ ความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษ ความสนใจ และทัศนคติของผู้สมัคร โดยระหว่างฝึกงานผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับค่าตอบแทนตั้งแต่ US$ 3.5 – US$ 10 ต่อชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน และสถานที่ทำงาน ระยะเวลาการทำงานเริ่มตั้งแต่ 8 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย และไม่เกิน 16 สัปดาห์ หลังจากสิ้นสุดการทำงาน ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเดินทางท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกาด้วยตนเอง ได้เป็นเวลา 30 วัน อนึ่งผู้เข้าร่วมโครงการฯต้องมีความเข้าใจว่า รายได้จากการทำงานเป็นเพียงส่วนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างพำนัก และท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐฯ ทางโครงการฯไม่ได้มีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นให้นักศึกษาไปทำงานเพื่อเก็บเงิน แต่ไปเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และท่องเที่ยวในต่างแดน
How to Apply
Apply Online & Pre-Screen English
ลงทะเบียนกับทาง Nextgen ผ่านทาง Website / สมัครโดยตรงที่สำนักงาน หรือช่องทาง line OA ก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Reserved Job
จองงานหลังจากจ่ายค่าสมัครเข้าร่วม โครงการและสามารถเปลี่ยนงานได้โดย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
Application Process
หลังจากผ่านสัมภาษณ์ พี่ๆ Nextgen จะดำเนินการเรื่อง เอกสาร DS2019
Interview
ทุกงานจะต้องสัมภาษณ์กับนายจ้าง โดยการสัมภาษณ์ผ่าน Zoom / US Sponsor Website
Visa Process
นัดสัมภาษณ์วิซ่าหลังจากได้รับ เอกสาร DS2019
Ticket Process
สัมภาษณ์วีซ่าผ่านแล้วจะดำเนินการ เรื่องตั๋วเครื่องบิน
Pre - Departure Orientation
ปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนการเดินทาง
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Program Fees
- ค่าสมัคร 7,000 บาท ยืนยันเข้าร่วมโครงการ (ขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินในทุกกรณี)
- ค่าธรรมเนียมเข้าร่วมโครงการ 87,900 บาท โดยจะแบ่งการชำระออกเป็น 2 งวด
- งวดที่ 1 จำนวน 30,000 บาท ชำระหลังจากยืนยันเข้าร่วมโครงการ ภายใน 15 วัน และชำระค่ามัดจำตั๋วเครื่องบินจำนวน 5,000 บาท (ขอสงวนสิทธิ์ คืนเงินเฉพาะ 3 กรณีด้านล่างนี้เท่านั้น)
- แจ้งไฟล์ทการเดินทางก่อนวันเริ่มงานตามเอกสาร DS2019 อย่างน้อย 1 เดือน
- คอนเฟิร์มไฟล์ทและกรอกไฟล์ทบินในระบบ US SPONSOR หลังจากสัมภาษณ์วีซ่าภายใน 3 วันเท่านั้น
- ส่งเอกสารรายงานตัวเมื่อเดินทางกลับถึงไทยภายใน 1 อาทิตย์
- งวดที่ 2 จำนวน 57,900 บาท และชำระค่าวีซ่า จำนวน $185 พร้อมกับค่าบริการวีซ่า จำนวน 1,500 บาท ,
ค่า Sevis Fee จำนวน 3,500 บาท และ ชำระหลังจากสัมภาษณ์กับนายจ้างผ่านแล้ว ภายใน 7 วัน
ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าจัดหาสถานที่ฝึกงาน
- ค่าจัดสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์งาน
- ค่าดำเนินการเอกสารสิทธิ์ในการยื่นขอวีซ่า (DS-2019 from) พร้อมคำแนะนำในการเตรียมเอกสาร
- ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ครอบคลุมระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ ซึ่งไม่รวมการท่องเที่ยวหลังสิ้นสุดการทำงาน
- ค่าดำเนินการจัดปฐมนิเทศก่อนเดินทางไปเข้าร่วมโครงการ
- คู่มือสำหรับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ
- เจ้าหน้าที่ของเน็กซ์เจนฯและ เจ้าหน้าที่องค์กรในต่างประเทศให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือตลอดโครงการ
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าจำนวน $185 และค่าบริการวีซ่าจำนวน 1,500 บาท
หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมวีซ่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศของสถานฑูต และ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสหรัฐอเมริกา
- ค่า Sevis Fee จำนวน 3,500 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบินราคาประมาณ 40,000 – 60,000 บาท (ไม่บังคับซื้อตั๋วเครื่องบิน)
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
- ค่า Pocket Money ขั้นต่ำ $1,000 เหรียญ
หมายเหตุ : ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นเงินส่วนตัวของนักศึกษาที่ควรเตรียมให้พอสมควรสำหรับค่าใช้จ่ายช่วง 2 – 4 สัปดาห์แรกของการใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ค่าตรวจ COVID – 19 และค่าใบรับรองแพทย์
หมายเหตุ : น้องๆสามารถเลือกโรงพยาบาลที่สะดวกเพื่อเข้ารับการตรวจ COVID – 19 และรับใบรับรองแพทย์ก่อนการเดินทางออกนอกประเทศซึ่งอัตราค่าตรวจอาจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างขึ้นอยู่กับ Package การตรวจ COVID – 19 ของแต่ละโรงพยาบาล
Documents
1. เอกสารประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการ
1. รูปถ่าย Visa USA ขนาด 2*2 นิ้ว จำนวน 4 รูป พื้นหลังขาว เห็นหูทั้ง 2 ข้างชัดเจนโดยไม่ใส่เครื่องประดับ
2. สำเนา Passport 2 ฉบับ
3. สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ
4. สำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา 1 ฉบับ
5. ใบรายงานผลการศึกษาปีล่าสุด (Transcript) ฉบับจริง 1 ชุด พร้อมสำเนา อีก 1 ชุด
6. หนังสือรับรองสถานภาพนิสิต นักศึกษาภาษาอังกฤษ ฉบับจริง 1 ชุด พร้อมสำเนา อีก 1 ชุด
7. Resume พร้อมติดรูป 1 ฉบับ
8. Motivation Letter 1 ฉบับ
หมายเหตุ : เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงเอกสารประกอบการสมัคร เท่านั้น
2. เอกสารประกอบการสัมภาษณ์วีซ่า
2. ใบรายงานผลการศึกษาล่าสุด (Transcript) ภาษาอังกฤษ ฉบับจริง 1 ชุด พร้อมสำเนา อีก 1 ชุด
3. หนังสือรับรองสถานภาพนิสิต นักศึกษาภาษาอังกฤษ ฉบับจริง 1 ชุด พร้อมสำเนา อีก 1 ชุด
4. Passport เล่มจริง
5. ใบลงทะเบียนเรียน เทอม2 (สามารถปริ้นได้จาก ระบบสารสนเทศนักศึกษาของทางมหาวิทยาลัย)
หมายเหตุ: ใบรับรองสถาระทางการเงินไม่ใช่ Bank Statement และไม่ต้องเอาบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
3. เอกสารสำคัญของโครงการ Work & Travel
เอกสารวีซ่า J-1 เป็นเอกสารที่ทางรัฐบาลอเมริกาออกให้เพื่อบุคคลที่เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนของรัฐบาล ที่มีจุดประสงค์หลักคือการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวอเมริกัน บุคคลที่สามารถขอวีซ่า J-1 ได้นั้นจะต้องผ่านคุณสัมบัติต่างๆที่ทางโครงการแลกเปลี่ยนนั้นๆ กำหนดไว้ รวมทั้งได้รับเอกสารประกอบที่ถูกต้องตามกฎหมายของทางรัฐบาลอเมริกา ซึ่งในโครงการแลกเปลี่ยน Work & Travel USA. นี้ นักเรียนจำต้องได้รับเอกสาร DS-2019 ที่ออกโดยนายจ้างก่อนการยื่นขอวีซ่า J-1
DS-2019 Form
เอกสาร DS-2019 เป็นเอกสารสำคัญประกอบการขอวีซ่า J-1 สำหรับบุคคลที่เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน เป็นเอกสารสำคัญที่แสดงถึงสถานะของบุคคล ว่าได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนชนิดใด และสถาบันใดเป็นผู้รับรองการเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาของบุคคลนั้นๆ ทั้งนี้บนเอกสาร DS-2019 จะระบุถึงระยะเวลาที่บุคคลนั้นจะสามารถพำนักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
Social Security Card
บัตร SSC เปรียบเสมือนบัตรประจำตัวของบุคคลที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เป็นเอกสารในการแสดงสถานะของบุคคลนั้นๆ ที่สามารถทำงานในสหรัฐอเมริกาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมใช้หมายเลขบนบัตร SSC เป็นหมายเลขประจำตัวในการเสียภาษีเช่นกัน ดังนั้น นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ Work & Travel USA. จะได้รับบัตร SSC ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน