Bar Harbor เป็นเมืองเล็ก ๆ เดิน3ชั่วโมงกว่าครบทั้งเมืองไม่เกินจริง บรรยากาศดี ชิวมาก อากาศคือสุดยอด อาจมีวันฝนตก หมอกลงบ้างแต่ไม่บ่อย ผู้คนเป็นมิตร ไม่มี Homeless เดินคนเดียวตอนกลางคืนได้ชิว ๆ ไม่น่ากลัว เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศ คนพลุกพล่านตลอดเวลามี Cruise Ship มาจอด เราสามารถ ไปดูวาฬ/ Sunset Cruise ได้ฟรีแค่โชว์ Pay Check ให้เจ้าหน้าที่ดู ในเมืองยังมี Island Explore Bus พาเราขึ้นอุทยาน Acadia National Park ได้ฟรี ๆ ด้วย มาที่นี่แนะนำให้ไป Hiking มาก เพราะสะดวกเดินทางง่าย บรรยาศดีมาก วิวสวยย ถ้าตื่นเช้าหน่อยช่วง 4:15/5:15 จะมีบัส 10$ พาขึ้นไปยอดเขา Cadilac ไปดูแสงแรกในอเมริกา ที่ Cadillac Mountain (เสียค่าเข้าอุทยานคนละ 35$)

เมืองนี้มีของขึ้นชื่อคือ Lobster กับ Blueberry มาแล้วต้องลอง ที่เมืองไม่มี Walmart แต่มี Supermarket ชื่อ Hannaford ของครบอยู่ มีโซน Asia การเดินทางที่นี่ส่วนมากเดิน/ปั่นจักรยาน ถ้าจะออกไปเมืองอื่นมีบัสราคา 9$เป็นรอบ ๆอยู่

งานสองที่นี่ confirm ว่าหาง่าย เดินสุ่ม ๆ เข้าไปถามได้เลยตามร้าน ส่วนตัวลองแอปหางาน Indeed แล้วแต่ไม่ค่อย work เดิน Walk-in ไปง่ายกว่า แนะนำว่าไปให้เจอ Manager เท่านั้น ร้อยทั้งร้อยถ้าให้ฝากเบอร์ไว้คือไม่ติดต่อกลับ เด็ก J-1 ที่นี่ค่อนข้างเยอะ ถ้าไม่ใช่คนไทย ส่วนมากเราเจอ ตุรกี โรเมเนีย บัลเกเรีย แล้วก็โซนยุโรปต่าง ๆ ที่นี่ H2B ก็เยอะเหมือนกัน 90%ที่เราเจอเป็น Jamaican

 

Front of the House: Busser/Host/Server

ตำแหน่ง Front of the House ที่นี่คือ ทำทุกอย่างทั้ง Busser/Host/Server แต่ส่วนมากเราจะได้ทำเป็น Server ตอนแรกเราอ่านใน Job Offer ว่าตำแหน่ง Front of the House แล้วมี List ตำแหน่งต่างๆมา เราก็คิดว่ามาที่นี่จะให้เลือกอีกรอบหนึ่งว่าจะโดนให้ทำตำแหน่งอะไร ถ้าได้ทำ Server ก็อาจปรับเป็นเรทหนึ่งแล้วได้ทิป แต่สรุปคือได้ทำทุกตำแหน่งแต่เรท 16$/Hr ซึ่งที่นี่การที่ทำเป็น Server แล้วไม่ได้ Tips เป็นเรื่องที่แปลกมาก ๆ บางคนบอกว่า Illegal ด้วยซ้ำ

Step ตอนทำงานก็รับ Order Appetizer/Drink ก่อน จดใส่กระดาษแล้วเอาไป Key เข้าระบบ ที่นี่ใช้ Toast System ใช้ง่าย Interface ดีไม่งง แล้วถ้าคล่องแล้วไปใช้ร้านอื่นก็ได้เพราะ ทั้งเมืองใช้ Toast System เหมือนกัน พอลูกค้าเลือกเมนูจานหลักได้แล้วก็เข้าไปรับ Order อีกทีแล้ว Key ซ้ำ แต่ก็มีบางครั้งที่สั่งทีเดียวเลย ระหว่างทานก็เข้าไปเช็คถามว่าอาหารเป็นยังไงตาม Step ถ้าจานไหนกินเสร็จเราก็เดินไปเก็บ พอลูกค้าทานเสร็จเราก็มีหน้าที่คิดเงินตามปกติ Tip ทั้งหมดจากบัตรคือเข้าที่ร้านทั้งหมด แล้วส่วนมากจะจ่ายเป็น Card ลูกค้าที่จ่ายสดแทบไม่มี หมายความว่า Cash Tip เราก็แทบไม่ได้ แต่ก็มีได้บ้างบางโต๊ะแต่จะนานๆที พอลูกค้าลุกออกทานเสร็จเราก็เข้าไป Clean โต๊ะ เก็บจาน/แก้ว เรียง Silverware/จาน ใหม่

เวลาว่างไม่มีโต๊ะหน้าที่ Side work ก็มี พับ Silverware/หั่นผัก/หั่นเครอท/เขียน Thank you บนถุงกระดาษสำหรับ Take Out/ ตัด Cutting Board/ Restock เครื่องดื่ม/ ล้างแก้ว บางครั้งถ้าหน้าร้านลูกค้าไม่เยอะ เราก็โดนให้ไปช่วยล้างจานในครัว หรือไม่ก็จัดของในห้องเก็บ Stock Shift ที่นี่มีสองช่วง Morning/Evening ถ้าได้เปิดร้านก็ประมาณ 10:30-16:30/18:00แล้วแต่วัน แต่วันไหนได้ Double ก็ยาวถึง 22:00 ปิดร้าน

งานนี้เป็น Sponsor หลักเรา แต่ทำได้2อาทิตย์เราก็ลาออก เพราะว่า

1.) Schedule ไม่เคย Fixed บอกตารางงานวันต่อวัน มีครั้งหนึ่งจบงานตอน 22:00 ทักหา manager แล้วยังไม่ตอบเราก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ทำไม่ทำ พอถึงตีห้าพึ่งทักมาบอกว่าให้ทำเช้า ซึ่งทำให้หางานสองลำบาก

2.) บรรยากาศทำงานไม่ดี เจ้าของมีไรไม่พอใจ ด่า manager ขึ้นเสียงตลอด ส่วน J-1ในร้านก็ไม่เหลือทำไรไม่พอใจก็โดนวีนตามstep ขู่จะไล่ออกตลอดเวลาถ้าไม่พอใจอะไร เปรียบเทียบพนักงานแต่ละคน คนนั้นดีกว่าคนนี้ด้อยกว่า ตอนเริ่มงานวันแรกก็ขู่ว่าถ้าทำไม่ดีก็ไล่ออก ก่อนเราลาออก เพื่อนเราโดนไล่ออกไป3คน ทำที่นี่คือห้ามอยู่เฉย ต้องทำตัวให้ยุ่งตลอดเวลา ไม่งั้นโดน

3.) เป็น Server/ตำแหน่ง Front of the House แต่ไม่ได้ทิป คือทั้งเมืองคนที่ทำตำแหน่ง Front ในร้านอาหารจะได้ Tip เสมอ ซึ่งเราคิดว่าการที่ได้เรทสูงกว่าเป็น 16$ แต่ Tip ไปอยู่ที่ร้านหมดเป็นอะไรที่เราไม่อยากทำต่อ แล้วคิดว่าไม่แฟร์กับพนักงานเลย

4.) บ้านที่อยู่กับงานนี้ราคา 120$/week แต่ห่างจากตัวเมืองเดินขึ้นเนินเขาฟีล ๆ 25 นาที ตอนดึกมืดมากไม่มีไฟ ไม่ตรงใน Job Offer บ้านเก่ามาก ๆ ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม นอน 3คนต่อหนึ่งห้อง คนที่อยู่ด้วยกันในบ้านไม่มีกฏเรื่องทำความสะอาดอะไรเลย บ้านเลยสกปรกมาก ๆ จักรยานที่มีให้ก็ไม่พอใช้ต่อคนในบ้าน บางคันก็ใกล้จะพังไม่มีเบรค🙂‍↔️

แต่ ๆๆๆ ที่นี่ก็มีเรื่องดีไม่ใช่มีแต่แย่ ๆอย่างเดียว ที่นี่ให้บ้านเราเช่าต่อตอนที่เราหาบ้านไม่ได้ ถึงจะไม่ได้ทำงานให้แล้ว เจ้าของร้านเวลาไม่ได้ทำงานก็คุยเล่นได้ตามภาษาไม่ได้เป็นเหมือนตอนทำงานตลอด มีเมเนเจ้อผู้ชายคนหนึ่งคอยช่วยเหลือตลอด ทั้งสอนงานในร้าน พาเที่ยว พากิน คอย take care ตอนร้านทำภาษีผิดให้ ก็ให้เงินคืรมาเป็นCheck เงินสดเลย ไม่ต้องรอตอนไปทำภาษี แล้วลูกค้าส่วนมากที่นี่น่ารักทุกคน ยิ้มแย้มตลอด ใจเย็นไม่เร่งอาหาร ไม่เคยเจอโต๊ะที่ไม่ดีเลย แต่สุดท้ายเราก็เลือกจะออกอยู่ดีเพราะคิดว่ามันน่าจะมีที่ ๆดีกว่าแล้วเหมาะกว่า ซึ่งมันก็มีจริง ๆ

ร้านนี้คือ Sponsor หลักเราหลังออกจากร้านไทย Manager ที่นี่อาจดูกวนๆ แต่จริง ๆน่ารักมาก ช่วยเรื่องเอกสารต่าง ๆ ไม่บ่นสักคำทั้งๆที่มีโคตรเยอะ เราขอชั่วโมงเพิ่ม เค้าก็ให้ บอกให้มาร้านเช้าขึ้นจาก มาช่วยทำความสะอาด ชิวจัดๆ Shift ที่นี่เริ่มตอน 9 โมงครึ่งเสร็จ 4 โมง มาตอนเช้าเราก็มีหน้าที่ช่วยเปิดร้านทำความสะอาดถูพื้นกวาดพื้น เสร็จจากนั้นก็รอล้างจานกะเครื่องครัว

เรื่องงานคือชิวมาก ๆเหมือนกัน ล้างจาน Spray ก่อน เข้าเครื่อง เสร็จแล้วก้มาเรียงตรงตู้วาง จบ ร้านอยู่บน Pier เลย ส่วนใหญ่คนจะไม่เยอะ เลยมีเวลาชิวเยอะ นั่งเล่นโทรศัพท์วันละ 30นาที-1ชม เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าว่าง ๆละเบื่อ เราก็ไปช่วยเพื่อนจาเมกัน ทำ Prep Cook ได้ ที่ต้องทำก็มี หั่นพวกเลม่อน มันฝรั่ง แตงกวาดอง ปลอกข้าวโพด ทำ Lobster Roll หั่นผักมาทำ Salsa ทำ Coslew แล้วแต่วันว่าเพื่อนมีไรให้ช่วย ตอนทำที่นี่เราได้ข้าวฟรีจากในครัวทุกวันถ้าเดินไปขอเพื่อน บางวันเพื่อนก็เดินเอามาให้กินเองเลย

ตอนทำงานทั้งร้านมี 2 คน Cashier and Sandwich maker Shiftเราเริ่มทำตั้งแต่ 3-9pm เป็นร้านที่ระบบโบราณมาก รับแค่ Mastercard Visa และ เงินสด ไม่สาทารถทิปให้ในระบบ POS ได้ ทิปได้แค่เงินสดเท่านั้น เลยทำให้ถึงลูกค้าเยอะ ทิปที่ได้ตอนจบวันก็ค่อนข้างน้อย อย่าง 4th July ได้แค่ 30$ ทั้ง ๆ ที่ยอดขายมากกว่าปกติมาก ๆ

หน้าที่ cashier คือรับออเดอร์แล้วเขียนใส่กระดาษแล้วส่งให้ Sandwich maker จากนั้นก็ค่อย Key ในระบบ ตอนเขียนก็จะต้องมีการจำตัวย่อของเมนูต่าง ๆ ซึ่งเยอะมาก เช่นตัวย่อ Meat Veggie Sauce ชื่อเมนูแบบย่อ รวมๆแล้ว 40+ แต่ทำไปเรื่อยๆก็จะจำได้เอง แล้วแต่ละเมนูก็จะมี pattern การถามลูกค้าต่างกัน เช่น Signature Sandwich ก็ไม่ต้องถามอะไรเพราะ add อะไรเพิ่มไม่ได้ ทำได้แค่เอา ingredients ออก ส่วนเมนู Sandwich ปกติก็ เริ่มจาก Bread_Meat_Veggie_Sauce

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบงานที่นี่เพราะ 1. ระบบโบราณ/2. งานหนักมากเพราะทั้งร้านมี 2 คน แล้วลูกค้าเยอะเรื่อย ๆ 3.มันมีงานที่เหนื่อยเท่า ๆ กัน แต่ได้เงินเยอะกว่ามาก 4. เจ้าของร้าน Bossy มาก ๆ วันแรกที่ทำงานเพื่อนที่เป็น Trainer บอกกับเราว่าห้ามเถียงกับเจ้าของร้านเด็ดขาด ถึงแม้เราจะมีเหตุผลที่ถูกก็ตาม555555555

งานแม่บ้านทำห้องทั่วไป มี2รูปแบบ คือ Stay-Over คือแค่ เปลี่ยนถังขยะ/ผ้าเช็ดตัวใช้แล้ว จัดเตียง ทำเตียงใหม่ให้ ถ้าของส่วนตัววางอยู่เยอะก็เว้นไปไม่ต้องทำ ส่วน Check-Out ก็ ทำทุกอย่างในห้อง เตียง ห้องน้ำ เปลี่ยนผ้าทุกอย่างใหม่ ส่วนมากลูกค้าที่นี่ไม่สกปรกมาก ยังไม่เคยเจออะไรแปลกๆ5555 คุณป้าเพื่อนรวมงานเป็นจาเมกันทักคน น่ารัก นิสัยดี ค่อยช่วยตลอด แต่เราไม่ได้ทำที่นี่ต่อเพราะตารางเวลาไม่ตรงเลยได้ทำแค่ 4 ครั้ง ทิปห้องมากสุดที่เคยได้คือ 40$ตอนวันสุดท้าย (ของขวัญส่งท้ายไหม5555) ที่นี่ Tips จะมีซองให้ใส่ ทุกห้องทำคนเดียวไม่ต้องแชร์ แต่จะมีห้องแบบ Cottage ที่จะมารวมตัวช่วย ๆกันทำเพราะเป็นบ้านแบบหลังใหญ่กว่าห้องทั่ว ๆไป

เป็นร้าน Coffee Shop แบบ To-Go มีขายเปิด 7:00-16:30 เราทำที่นี่เป็นงานหลักแล้วก็อยู่บ้านกับงานนี้ช่วงครึ่งหลัง ส่วนมากหน้าที่เราคือ Cashier ก็รับ order ตอบคำถาม basic ลูกค้า อันไหนไม่แน่ใจก็เดินไปถามฝั่ง Barista ได้เลย POS system ที่นี่ใช้ง่าย ไม่มึน ที่ร้านจะมีขาย Clothing & Souvenir ด้วย ก็ใช้เครื่องสแกน แล้วก็จ่ายปกติ ที่นี่ส่วนมากรับ Part-time มาทำเยอะเพราะจะหารชั่วโมงกัน แต่ก็มีเด็ก J-1 เป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่จากยุโรป(roomate ที่เป็น J-1 ได้ 45ชม อย่างต่ำ[OT 5 ชม]) ส่วนเราช่วงแรก ๆ ได้ 30กว่า พอหลัง ๆ ได้ 40-45ชม มีให้ OT ที่นี่ Pool Tips หารกันทุกคนในร้าน ทิปเฉลี่ยต่อชั่วโมงทำงานเท่ากัน คือยิ่งชั่วโมงงานเราทำมาก ทิปเราก็ได้มากตาม สัปดาห์ที่เราทำ 40ชม ได้เฉลี่ยประมาณ 170-200$ แล้วแต่ว่าร้านขายดีไหมช่วงนั้น ๆ

ส่วนงานอีกตำแหน่งคือ PLAYPEN (Bakery) ส่วนตัวคิดว่าหนักคนละแบบกับ Cashier แต่ที่แน่ๆคือร้อนกว่าเพราะอยู่หน้าเตา หน้าที่คืออบ Bakery ต่าง ๆ Refill ให้มี Batch ใหม่อยู่ตลอด ที่นี่มีของขึ้นชื่อคือ Popover กินตอนร้อน ๆกับ Maple Butter คือที่สุด แต่พอเย็นแล้วไม่อร่อย, ทำ Bubble Tea, ทำความสะอาด Station ตัวเองตลอด, pack order bakery ต่าง ๆ ตามที่ Cashier ได้รับ order มา แล้วยื่น/เดินเอาไปให้ลูกค้า ถามคำถามลูกค้าบ้างบางครั้งเรื่อง Bakery ส่วนมากเป็นเรื่องราคา/Gluten Free option

ที่นี่เพื่อนๆก็น่ารัก แต่ก็มีคนโดนไล่ออกไปบ้างก่อนเรามา 5555555 Manager ที่นี่มี2คนผัวเมีย คนผัวจะดุ วีน ๆหน่อย ส่วนเมียคือน่ารักมาก ๆ ค่อยชม คอยสอนทุกอย่าง ขอชั่วโมงเพิ่มก็ให้ตลอดไม่ขัด ต่างกับผัวอย่างสิ้นเชิง

ร้านเครือเดียวกับ Fish House Grill แต่ร้านใหญ่กว่า ลูกค้าเยอะกว่ามาก ร้านขาย beer กับ Appetizer/Burger/Sandwich เป็นหลัก ร้านใหญ่จานกับเครื่องครัวก็เยอะตาม แต่ทำแค่คนเดียว จะเหนื่อยมาก ๆตอนปิดร้าน แต่ตอนอื่นก็ทั่วไป เพื่อนร่วมงาน/Manager น่ารักทุกคน เราทำล้างจานที่นี่แค่ครั้งเดียวเพราะมีคนลา เค้าเลยขอให้เราไปช่วยทำให้ตอน evening shift

Host

16$/Hr (Shared Tips with Food Runner) รวมๆแล้วจะได้ประมาณ 18$/Hr

เราได้ทำงานนี้ตอนช่วง 3Weeks สุดท้ายก่อนกลับเพราะช่วง August เป็นช่วงที่โรงเรียนฝนอเมริกาเปิดพอดี เลยมีตำแหน่งว่างจากพนักงานที่ต้องกลับไปเรียน หน้าที่ Host ค่อนข้างสบาย แต่อาจต้องเจอลูกค้าประสาทแดกบ้างบางครั้งกับต้องคอยปฏิเสธไม่ให้คนนอกมาใช้ห้องน้ำ หน้าที่หลักคือ Greeting ลูกค้า หยิบเมนู พาลูกค้าไปนั่งที่โต๊ะ จบแค่นี้ 🙂‍↕️ โดยเราต้องเฉลี่ยให้ Server แต่ละคนได้โต๊ะเท่า ๆก้น ไม่ควรห่างกันเกิน 3โต๊ะ อาจมีต้องถามคำถามเกี่ยวกับเมนู หรือ แนะนำอาหาร/เครื่องดื่มในร้านบ้าง ถ้าไม่แน่ใจก็เรียกเพื่อน Server มาช่วยได้ตลอด

Shift ที่นี่เราทำช่วงเย็น ใน Schedule เขียนไว้ว่า 5:00-22:00 แต่ตอนทำจริงจะได้ถึงแค่ 21:00 ก็จบ Shift แล้วเพราะร้านปิดไวกว่าปกติเพราะไม่มีลูกค้า

ที่นี่เป็นร้านน้องใหม่เปิดได้แค่หนึ่งปี มีโต๊ะทั้งหมด8 โต๊ะ แล็วก็เก้าอี้บาร์อีก 10 ที่ เพื่อนรวมงานที่นี่ใจดี น่ารัก ลูกเจ้าของร้านเป็น server ต้องกลับไปเรียนตอนเปิดเทอม Owner ก็เลยให้เรามาทำแทนที่ลูกเค้า แต่ทำไปทำมาได้แค่ 5วันเพราะ Schedule เราไม่ตรงกัน

ด้วยความที่ร้านเล็กมาก ๆ ตำแหน่ง Front of the House ก็เลยจะสลับๆกันทั้งหมดเป็น server host แล้วก็ busser ไปในตัว คนเดียวทำทุกอย่าง ร้านนี้ก็เหมือนระบบร้านอาหารทั่วไป ดีหน่อยที่ร้านแคบเลยไม่ต้องเดินเยอะมาก ความยากคือต้องจำชื่อเมนูซึ่งเป็นภาษาสเปนให้ได้ ดีอยู่ที่เมนูมีไม่เยอะมาก ทำไปสักพักก็เริ่มชิน ทุกวันหลังเลิกงานเราก็สามารถสั่งอาหารในเมนูเอากลับบ้านได้ฟรี !

งานสบายที่สุด ชิวมาก นั่งได้ แอบยากตรงจำขนาดรูปต่าง ๆ ที่ลูกค้าถาม กับ Number Tag ถ้าไม่แน่ใจจริง ๆก็เอาไม้บรรทัดวัดไปเลย555555 เจ้าของเป็นคนลุงอายุ 78 ปี ใจดี อารมณ์ศิลปิน แกบอกว่าเวลาขายเน้นชวนคุย ไม่รีบ เดี๋ยวลูกค้าก็ซื้อเอง บางครั้งลูกค้าซื้อ 1ชิ้น ก็เท่ากับยอดขายทั้งวันแล้ว ตอนเราทำร้านก็แทบไม่มีคนเข้า นั่งรอลูกค้าชิว ๆ ถ้าว่างก็ทำความสะอาด จัดของ เติม stock มีต้องไปช่วย pack postcard บ้าง ไม่มีต้องยกของหนัก

Food Runner ง่ายๆคือตำแหน่งผู้ช่วย server เวลาทำงานคือจะยืนรอที่หน้าครัว พออาหารเสร็จก็ อ่าน Ticket ที่ได้จาก Kitchen

แล้วเราก็มีหน้าที่ Expo อาหาร: จัดจาน ตกแต่ง ใส่ sauces ใส่มีด หรืออุปกรณ์ต่างๆสำหรับเมนูนั้นๆ แล้วค่อยนำอาหารไปเสริฟให้ลูกค้าที่โต๊ะ

งานค่อนข้างใช้ข้อมือเยอะ แรกๆยก Tray ใหญ่อาจไม่ชิน ที่นี่มีข้อเสียคือประตูเล็กมาก ๆ ตอนเอาอาหารออกไปเสริฟ เดินลำบาก บางครั้ง server ถ้าเห็นจานเยอะก็จะมาช่วยตลอด

บางวันเปิด 2 ชั้นทำให้ต้องเดินขึ้นลง เป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล บรรยากาศทำงานที่นี่ชิว ๆ คน Jamaican ในครัวน่ารักมาก คอยถามตลอดว่าหิวไหม กินอะไรไหม เพื่อนๆในครัวทำอาหาร Jamaican กินกันก็เอามาแบ่งให้ตลอด ส่วนทำงานกับ Server ก็จะเครียดนิดนึงเพราะพวกเค้าโดนลูกค้ากดดันมา วันที่2ที่เราทำอยู่ ๆ เพื่อนเดินมา ร้องไห้ ปล่อยโฮ ต่อหน้าเพราะโดนลูกค้าวีนใส่ บางครั้งก็เจอลูกค้าปสดแต่ก็ช่างมันไปให้ manager ไปเคลียร์ให้ “Complemetary Blueberry Pie can help fixing everything, said Mehgan” ที่นี่เราเจอเพื่อนร่วมงานน่ารักมาก ๆ หลายคน เสียดายที่ได้ทำแค่ 3 weeks ก่อนกลับ