Blogs &

Reviews

4 สถานที่ Remote Areaที่ไม่ควรพลาด

4 สถานที่ Remote Areaที่ไม่ควรพลาด

07/09/2024

น้องๆหลายคนคงสงสัยใช่มั้ยครับว่าคำว่า Remote Area มันคืออะไร อยู่ที่ไหนบ้าง และจะสามารถไป Work and Travel ได้ไหม

วันนี้พี่ๆ Nextgen Exchange หาคำตอบมาให้แล้วครับ

Remote Area หมายถึง พื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือเดินทางเข้าถึงลำบาก เช่น พื้นที่บนภูเขา หรือ ตามชนบท ในประเทศสหรัฐอเมริกามีพื้นที่ Remote Area หลายที่มากที่เป็นที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดในการไป Road trip เช่น Sand Hills – Nebraska, Crested Butte – Colorado, Yellowstone – Wyoming เป็นต้น

แต่นอกจาก Remote Area ที่กล่าวไปข้างต้นก็ยังมีโลเคชั่นที่เหมาะสำหรับการไป Work and Travel ด้วยเช่นกันครับ เพราะการไป Work and Travel ในพื้นที่ Remote Area จะทำให้น้องๆสามารถเรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตแบบชาว American ได้อย่างเต็มที่ ได้ฝึกพูดคุยเพื่อเสริมทักษะภาษาอังกฤษ และมีโอกาสในการเก็บเงินได้สูงมากเลยครับ

พี่ๆ Nextgen Exchange จึงอยากแนะนำ 4 สถานที่ Remote Area ที่ไม่ควรพลาดและเหมาะกับการไป Work and Travel ดังนี้ครับ

(Credit: https://theflyingmantis.com/put-in-bay-lake-eries-hidden-gem/)

1.Put in Bay, Ohio – เมืองนี้เป็นเมืองพักตากอากาศในช่วงฤดูร้อน ช่วงที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนตุลาคมเลยครับ อีกทั้งเมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดยมีโรงเตี๊ยม โรงบ่มไวน์ ร้านอาหารและโรงแรมมากมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำอีกหลากหลายและมีความงดงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์อเมริกันให้ค้นพบอีกด้วยครับ สำหรับน้องๆที่ชอบเมืองติดทะเลและเป็นเมืองท่องเที่ยว แนะนำงานในโลเคชั่นนี้เลยครับ Mossback @ Put in Bay, OH 

 

(Credit: https://www.travelwisconsin.com/events/fairs-festivals/warrens-cranberry-festival-40032)

 2. Warren, WI – พื้นที่รอบๆเมืองนี้มีบึงแครนเบอร์รี่ที่หนาแน่นที่สุดในรัฐนี้เลยครับ โดยสามารถเก็บเกี่ยวผลแครนเบอร์รี่สีแดงได้มากกว่า 2,000 ไร่ทุกปีและเป็นเวลากว่า 40 ปีที่หมู่บ้านในเมืองนี้เป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลแครนเบอร์รี่ประจำปีของเมือง Warren ครับ เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายนของทุกปี ดึงดูดผู้คนนับหมื่นจากทั่วสหรัฐอเมริกาให้มาเพลิดเพลินกับเทศกาลนี้ ในงานจะมีการแข่งขันสูตรอาหารแครนเบอร์รี่ บูทงานศิลปะและงานฝีมือตลาดนัดของเกษตรกร ตลาดนัดของเก่าและของมือสอง รวมทั้งอาหารและผลิตภัณฑ์แครนเบอร์รี่อร่อยๆมากมาย สำหรับน้องๆที่อยากแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเข้าร่วมเทศกาลที่น่าสนใจแบบนี้ ต้องไม่พลาดงานในโลเคชั่นนี้เลยครับ 

(Credit: https://visithannibal.com/)

3. Monroe City, MO – ตั้งอยู่ห่างจากเมืองฮันนิบาลไปทางตะวันตกประมาณ 17 ไมล์ซึ่งเป้นบ้านเกิดของ Mark Twain นักเขียนชาวอเมริกันผู้เขียนหนังสือ “The adventures of Tom Sawyer ” และภาคต่อของ “Adventures of Huckleberry Finn” ครับ อีกทั้งเมืองนี้ยังมีร้านค้ามากมาย สวนสาธารณะหลายแห่ง ห่างจากตัวเมืองไปทางใต้เพียงไม่กี่ไมล์ก็จะถึงทะเลสาบ Mark Twain เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ พายเรือ ตกปลา และกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ อีกทั้งการขับรถไปยังทะเลสาบแห่งนี้จะทำให้ได้สัมผัสกับทัศนียภาพชนบทที่สวยงาม นอกจากนี้การเดินป่าก็ยังเป็นที่นิยมในโลเคชั่นนี้ด้วยครับ สำหรับๆน้องคนไหนที่เป็นแฟนนักเขียนชาวอเมริกันท่านนี้ ต้องงานนี้ครับ Mark Twain Landing @ Monroe, MO แล้วอย่าลืมไปถ่ายรูปกราฟฟิตี้ที่เมือง Monroe City ด้วยนะครับ

(Credit: https://www.flaminggorgeresort.com/)

4. Dutch John, UT – สถานที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ คือ อ่างเก็บน้ำ Flaming Gorge ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของรัฐนี้มาหลายปีแล้วครับ อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการล่องเรือ ล่องแพ ตกปลา และกีฬาทางน้ำอื่นๆ นอกจากอ่างเก็บน้ำแห่งนี้จะเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำแล้วก็ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งอีกมากมาย เช่น เดินป่า ตั้งแคมป์ ขี่จักรยานเสือภูเขา เป็นต้น ขอแนะนำน้องๆที่ชอบธรรมชาติ ชื่นชอบความเงียบสงบ และมีกิจกรรมให้เข้าร่วม ต้องงานนี้เลยครับ 

สำหรับน้องที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Work and Travel กับพี่ๆ Nextgen Exchange
สามารถติดต่อพี่ๆได้ที่ :

Other Blogs